loading...

ช่วยหนูด้วย!!!…”เปรี้ยว”สวยพิฆาตสยอง โผซบว้าแดง ชายฉกรรจ์ทั้งนั้น จริงหรือ ทำไมต้องว้าแดง (รายละเอียด)

10:41

 หลังก่อเหตุผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ได้แยกย้ายกันหลบหนีไป โดย น.ส.ปรียานุช และ น.ส.กวิตา ได้หลบหนีไปทำงานที่ร้านคาราโอเกะชื่อดังที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ส่วน น.ส.จิดารัตน์หลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี คาดว่าอีกไม่นานคงจะหนีข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ลาวก็กัมพูชา

 ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.ปรียานุช และ น.ส.กวิตา ทั้งคู่หายตัวไปแล้ว คาดว่าคงจะหลบหนีอยู่ในประเทศเมียนมา และเจ้าหน้าที่ของไทยกำลังประสานงานกับทางการประเทศเมียนมาในการตามจับกุมทั้งสองคนแล้ว

 แต่ท้ายที่สุดขณะนี้ทั้งคู่นั้นหลบหนีออกจากประเทศไทยไปแล้ว โดนมีกลุ่มว้าแดงมารับตัวไป ซึ่งข่าวดังกล่าวนั้น ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Jatuporn Boonya ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงการหลบหนีของทั้งสองคน โดยระบุข้อความว่า …

 สำหรับกลุ่มว้าแดงนั้น หลายคนอาจจะไม่รู้จัก ซึ่งช่องแสดงความคิดเห็นก็มีผู้ใช้หลายคนได้เข้ามาอธิบายว่า กลุ่มว้าแดงนั้นเป็นอย่างไร
“เป็นชนกลุ่มน้อยในพม่า ครับ มีเขตปกครองของเขาอยู่ชานแดนพม่า ติดจีน คนธรรมดาก็ทำไร่นา คนไม่ธรรมดา ก็ค้าของผิดกม. ชนกลุ่มนี้มีกองกำลังทหารของตนเอง ไม่ยุ่งกับใคร แต่ก็ไม่ให้ใครมายุ่งด้วย พร้อมรบถ้าเสียผลประโยชน์”
“ความคิดส่วนตัวนะครับ 2 คนนี้ ที่พวกเรารู้ๆมีความเกี่ยวข้องกับ ยาเสพติด คนที่คอยหนุนหลังพาหนีก็น่าจะเป็นเครือใหญ่ ถ้ามอบตัวอาจจะโยงไปถึงเครือข่ายผิดกฎหมายอย่างอื่นได้ เลยตัดตอน 2 คนนี้ด้วยการส่งให้ไปเป็น เครื่องนันธนาการ กลุ่มหว้าแดง เอาเป็นว่าถ้าเธอทั้ง 2 ไปตรงนั้นจริงๆ ไม่ตายก็ยิ่งกว่าตายละครับ ถ้าใครเคยดู แรมโบ้ ภาค 3 ก็จะรู้ถึง ความอำมหิด ความโหดร้าย ความทารุณ ของชนกลุ่มน้อยนี้ มีคำพูดอยู่คำพูดนึงในเรื่อง ถ้ามันได้ผู้หญิงไปมันจะหมุนเวียน “ขมขื่น ” วันละร้อยรอบ
นักรบว้าแดง
บนเทือกเขาระหว่างแม่น้ำสาละวิน กับแม่น้ำโขงบนแผ่นดินรัฐฉานตอนบน มีชนกลุ่มน้อย ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นนักรบที่ดุร้ายที่สุด อาศัยอยู่มานานหลายศตวรรษ ดินแดนแห่งนี้ ไม่เคยตกอยู่ภายใต้การปกครองครองใคร ไม่มีใครอยากสู้รบกับพวกเขา แม้แต่ทหารพม่า ที่ได้ชื่อว่าโหดเหี้ยมต่อชนกลุ่มน้อยมากที่สุด ก็ยัง “เข่าอ่อน” เมื่อเจอนักรบกลุ่มนี้เดินผ่าน เพราะพวกเขาคือ ว้าแดง — อดีตนักล่าหัวมนุษย์ แห่งลุ่มน้ำสาละวิน
ชาวว้ามีขนบธรรมเนียมประจำเผ่า ที่เด่นมากสองอย่าง อย่างแรก คือการปลูก และพึ่งพาฝิ่น ในทางเศรษฐกิจ อย่างที่ ๒ คือธรรมเนียมการล่าหัวมนุษย์ ซึ่งเป็นประเพณีดั้งเดิมของชาวว้า พวกเขาเชื่อว่าหัวมนุษย์ มีอำนาจ และความพิเศษ หากเกิดภัยแล้ง หรืออาเพศขึ้น บนแผ่นดินว้า ชาวว้าจะออกล่าหัวมนุษย์ เพื่อให้แผ่นดิน กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง (ปัจจุบันประเพณีนี้ยกเลิกไปแล้ว แต่ยังมีกะโหลกมนุษย์ให้เห็นอยู่บนหิ้งผีตามบ้าน)
 “ผลดีของการล่าหัวมนุษย์ ที่ชาวว้าได้รับ นอกเหนือจากการแก้ปัญหาอาเพศ ตามความเชื่อของชนเผ่า ก็คือ ภาพความดุร้าย กล้าหาญ จนใครอื่นไม่กล้าย่างกราย เข้ามาปกครองดินแดนแห่งนี้ แม้กระทั่งพม่ากับจีน ยังเกี่ยงกันว่า ใครจะรวมดินแดนว้าไว้ ในเขตปกครองของตน ท้ายที่สุด จีนก็ยกดินแดนแห่งนี้ ให้อยู่อังกฤษดูแล (ขณะนั้นพม่า ยังอยู่ภายใต้การปกครอง ของอังกฤษ ปี ๒๔๒๘) แต่อังกฤษดูจะไม่ชอบใจเท่าไร เพราะเคยส่งทหารอังกฤษ ไปสำรวจดินแดน เพื่อเตรียมปกครอง แต่ปรากฏว่าทหารอังกฤษ ถูกนักรบชาวว้า ล่าหัวไปสังเวยอาเพศหลายครั้ง เมื่อถูกล่าหัว หนักเข้า ในที่สุด อังกฤษก็เลือก ที่จะเก็บหัวนายทหารอังกฤษไว้บนบ่า มากกว่าอยากเข้าปกครองดินแดนว้า ชาวว้าจึงมีอิสระ จากการปกครองของทุกฝ่าย มาจนถึงวันนี้
“ผลดีของการล่าหัวมนุษย์ ที่ชาวว้าได้รับ นอกเหนือจากการแก้ปัญหาอาเพศ ตามความเชื่อของชนเผ่า ก็คือ ภาพความดุร้าย กล้าหาญ จนใครอื่นไม่กล้าย่างกราย เข้ามาปกครองดินแดนแห่งนี้ แม้กระทั่งพม่ากับจีน ยังเกี่ยงกันว่า ใครจะรวมดินแดนว้าไว้ ในเขตปกครองของตน ท้ายที่สุด จีนก็ยกดินแดนแห่งนี้ ให้อยู่อังกฤษดูแล (ขณะนั้นพม่า ยังอยู่ภายใต้การปกครอง ของอังกฤษ ปี ๒๔๒๘) แต่อังกฤษดูจะไม่ชอบใจเท่าไร เพราะเคยส่งทหารอังกฤษ ไปสำรวจดินแดน เพื่อเตรียมปกครอง แต่ปรากฏว่าทหารอังกฤษ ถูกนักรบชาวว้า ล่าหัวไปสังเวยอาเพศหลายครั้ง เมื่อถูกล่าหัว หนักเข้า ในที่สุด อังกฤษก็เลือก ที่จะเก็บหัวนายทหารอังกฤษไว้บนบ่า มากกว่าอยากเข้าปกครองดินแดนว้า ชาวว้าจึงมีอิสระ จากการปกครองของทุกฝ่าย มาจนถึงวันนี้



ในช่วงสงครามระหว่างรัฐบาลพม่า กับพรรคคอมมิวนิสต์พม่า พรรคคอมมิวนิสต์พม่า พ่ายแพ้ต่อพม่า ในการรบแถวภาคกลาง จึงถอยร่นขึ้นไปอยู่ แถวรัฐฉานตอนเหนือ เพราะต้องการหาที่พึ่ง จากพรรคคอมมิวนิสต์จีน พรรคคอมมิวนิสต์พม่า เข้าไปสร้างฐานบัญชาการ ในอาณาบริเวณที่ว้าอาศัยอยู่ และเกณฑ์ชาวบ้านมาเป็นทหาร ในเวลานั้นชาวว้า เคยแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเข้าข้างรัฐบาล อีกฝ่ายเข้าข้างคอมมิวนิสต์ ก่อนพรรคคอมมิวนิสต์ล่มสลายไม่นาน ปี ๒๕๓๒ ทหารว้าก่อกบฏ พรรคคอมมิวนิสต์พม่า จนผู้นำอาวุโส ต้องหนีเข้าไปอยู่ในเมืองจีน หลังจากนั้นชาวว้า ก็ตั้งสหพันธรัฐว้า – UWSP (United Wa State Party) ขึ้น เพื่อเรียกร้องอำนาจ ในการปกครองตนเอง เช่นเดียวกับชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ ในประเทศพม่า ซึ่งชาวว้าต้องจ่ายค่าภาษีอากร ให้แก่สหพันธรัฐว้า เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับติดอาวุธกองทหารว้า เพื่อภารกิจนี้ด้วย

You Might Also Like

0 ความคิดเห็น

loading...